E-Tax Invoice เครื่องมือบริหารภาษีภาษีมูลค่าเพิ่มใหม่ของกรมสรรพากร

ด้วยแนวทางของการทำให้หน่วยงานของภาครัฐบาล สามารถทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะหน่วยงานการเก็บภาษี คือกรมสรรพากร ที่ต้องเก็บภาษีให้เกิด

ใครต้องส่ง และส่งข้อมูลอะไรใน E-tax  invoice
ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ทุกองค์กร ต้องส่งใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ใบลดหนี้ ใบเพิ่มหนี้ ทุกรายการให้กับกรมสรรพากรด้วยรูปแบบอีเลคโทรนิคส์ เป็นข้อมูลแต่ละข้อมูล (ไม่มีกระดาษเลย) โดยรูปแบบของข้อมูลจะมีการเข้ารหัสและแนบลายเซนต์อีเลคโทรนิสค์ทุกเอกสาร  โดยจะต้องส่งภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป  สำหรับผู้ประกอบการค้าปลีก ที่มีการเปิดใบกำกับภาษีอย่างย่อ ไม่ต้องส่งข้อมูลใบกำกับภาษีอย่างย่อ
สำหรับช่องทางการส่ง สามารถจัดส่งหลายช่องทาง

  1. Email สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย ที่สร้างใบกำกับภาษี ใบรูปแบบไฟล์ PDF โดยกระบวนการต้องส่งเอกสาร 1 ใบต่อ 1 อีเมล์
  2. Key in เป็นการบันทึกหน้าเว็บของกรมสรรพากร    ผู้ใช้ลงทะเบียนเว็บไซต์ E-tax Invoice และกรอกข้อมูลลงในระบบรายงาน E-tax invoice
  3. Upload ผู้ใช้ลงทะเบียนเว็บไซต์ E-Tax Invoice แล้ว upload ไฟล์ ที่ถูกจัดทำในโปรแกรมบัญชี หรืออีอาร์พีไว้พร้อมเข้ารหัสและลายเซนต์อีเลคโทรนิคส์
  4. Service Providor ผู้ให้บริการนำส่งโดยผู้ใช้ลงทะเบียนเว็บไซต์ E-Tax Invoice และซื้อบริการนำส่งจากผู้ให้บริการนำส่งข้อมูลของกรมสรรพากร
  5. Host to Host เป็นส่งจากเครื่องแม่ข่ายผู้ประกอบการไปยังเครื่องแม่ข่ายกรมสรรพากร ผู้ประกอบการต้องมีเอกสารใบกำกับภาษี 5 แสนใบต่อเดือน

สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://etax.rd.go.th/etax_staticpage/app/#/index/main#top
สำหรับการส่ง E-tax invoice นี้ยังเป็นการสมัครใจในการจัดส่ง ยังไม่บังคับในจัดส่งทุกองค์กร ทั้งนี้ต้องรอประกาศ พรบ จากกรมสรรพากรอีกครั้ง